อะแฮมมๆ ฮาโหลๆ เทส 1 2 3 สวัสดีครับกลับมาพบกับกระผมอีกแล้ว ช่วงนี้ก็นั่งกาปฏิทินนับถอยหลังวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ที่รอคอยกันแล้ว พูดถึงสงกรานต์ก็พูดถึงการเล่นน้ำ ฉีดน้ำ หรือจะเป็นสาดดดดดดน้ำ บางทีก็แถมขันมาด้วย =_=” ซึ่งมือถือหรือว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แทบทุกชนิด ล้วนแล้วไม่ถูกกับน้ำซะเท่าไหร่ เพราะอาจจะทำให้ช็อต พัง ใช้ไม่ได้ วันนี้ผมเลยมาพูดถึงเรื่องมือถือของคุณๆ ทั้งหลายมันกันน้ำหรือไม่? ถ้ากันน้ำมันจะกันน้ำได้มากแค่ไหน?
เริ่มด้วยการพูดถึงมาตรฐานการกันน้ำของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กันก่อนเลย
มาตรฐานที่เค้าใช้วัดกันว่าอุปกรณ์นี้กันน้ำได้มากน้อยแค่ไหนจะใช้มาตรฐาน IP Code ( International Protection Marking หรือ) เป็นมาตรฐานสากลที่ทาง IEC (International Electrotechnical Commission) ใช้กำหนดความสามารถในการป้องกันตัวของอุปกรณ์จากสิ่งแวดล้อมภายนอก โดยจะแสดงเป็นโค้ดสั้นๆ ดังนี้
IPXX
ส่วนแรกคือ IP ก็คือบอกว่าแสดงมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นอยู่นะ
X แทนตัวเลขระดับความสามารถในการป้องกันของแข็งเข้าในตัวเครื่อง หรือฝุ่นนั่นแหละ ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0-6
X แทนตัวเลขระดับความสามารถในการป้องกันน้ำเข้าตัวเครื่อง ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0-9K
และค่าการป้องการของแข็ง X มีค่าถึง 7 ระดับ คือตั้งแต่ 0-6
- 0 ไม่ป้องกันฝุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าอนุภาคจะเล็กใหญ่แค่ไหน
- 1 สามารถป้องกันของแข็งที่ใหญ่กว่า 50 mm เข้าตัวเครื่องได้
- 2 สามารถป้องกันของแข็งที่ใหญ่กว่า 12.5 mm เข้าตัวเครื่องได้
- 3 สามารถป้องกันของแข็งที่ใหญ่กว่า 2.5 mm เข้าตัวเครื่องได้
- 4 สามารถป้องกันของแข็งที่ใหญ่กว่า 1 mm เข้าตัวเครื่องได้
- 5 สามารถป้องกันฝุ่นได้ในระดับนึง ฝุ่นเข้าได้เล็กน้อย
- 6 สามารถป้องกันฝุ่นได้ 100% ฝุ่นไม่มาทางเข้าได้เลย
- X ไม่ได้ทดสอบหรือไม่สามารถระบุได้ว่าอยูในมาตรฐานใด
ต่อมาค่ามาตรฐานการป้องกันของเหลวหรือว่าน้ำกันบ้าง หรือผมสมมติตัวแปรว่า X จะได้อธิบายง่ายๆ
- 0 ไม่สามารถกันน้ำได้เลย
- 1 สามารถป้องกันหยดน้ำในแนวดิ่งได้
- 2 สามารถป้องกันหยดน้ำทำมุม 15 องศา ทำมุมกับแนวดิ่งได้
- 3 สามารถป้องกันหยดน้ำทำมุม 60 องศา ทำมุมกับแนวดิ่งได้
- 4 สามารถป้องกันน้ำได้ทุกทิศทาง และอนุญาตให้น้ำสามารถเข้าเครื่องได้เล็กน้อย
- 5 สามารถป้องกันน้ำที่ถูกฉีดมาได้ทุกทิศทาง และอนุญาตให้น้ำสามารถเข้าเครื่องได้เล็กน้อย
- 6 สามารถป้องกันน้ำที่ถูกฉีดมาได้ทุกทิศทาง (ที่มีแรงดันสูงกว่าระดับ 5) และอนุญาตให้น้ำสามารถเข้าเครื่องได้เล็กน้อย
- 6K สามารถป้องกันน้ำที่ถูกฉีดมาด้วยแรงดันสูงได้ทุกทิศทาง (ที่มีแรงดันสูงกว่าระดับ 6) และอนุญาตให้น้ำสามารถเข้าเครื่องได้เล็กน้อย
- 7 สามารถจมน้ำได้ลึก 1 เมตร นาน 30 นาที โดยไม่มีน้ำเข้าเครื่องเลย
- 8 สามารถจมน้ำได้ลึก 1 เมตรหรือมากกว่า ภายใต้เงื่อนไขของผู้ผลิต ซึ่งส่วนใหญ่จะกันน้ำได้ 3 เมตร
- 9K สามารถป้องกันน้ำที่มีแรงดันแลอุณหภูมิสูงได้
ยกตัวอย่างเช่น มือถือยี่ห้อหนึ่งได้รับมาตรฐาน IP55 หมายถึงอุปกรณ์นี้สามารถป้องกันฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีฝุ่นเล็กๆ เข้าไปในตัวเครื่องได้ และสามารถป้องกันน้ำที่ถูกฉีดมาได้ทุกทิศทางแต่ก็ยังมีน้ำเข้าไปในตัวเครื่องเล็กน้อย
ซึ่งในปัจจุบันผู้ผลิตมือถือหลายรายก็พยายามชูฟีเจอร์กันน้ำมาแข่งกัน ซึ่งโซนี่เป็นผู้นำได้ด้านนี้เลย
รูปนี้คือ Sony Xperia M4 Aqua ซึ่งดูจากสเปคที่ให้มาแล้วนั่นคือ IP65/IP68 สามารถกันฝุ่นได้ 100% เลย ซึ่งข้อนี้เป็นฟีเจอร์หลักของ M4 Aqua เลยเพราะรุ่นอื่นๆ ที่วางขายตามท้องตลาดได้แค่ IP5X เอง ส่วนเรื่องกันน้ำก็สามารถกันน้ำได้ไม่เกิน 1.5 m เป็นเวลา 30 นาที
และเมื่อเลื่อนลงไปอ่านดอกจันด้านล่างตัวเล็กๆ เค้าก็จะบอกว่า กันฝุ่นได้หมด ไม่สามารถใช้มือถือในน้ำที่ลืกกว่า 1.5 เมตร นานเกิน 30 นาทีได้ และจะต้องเป็นน้ำเปล่าเท่านั้น แต่ถ้าไปใช้ในน้ำที่มีคลอรีนผสมอยู่ เช่น สระว่ายน้ำ สามารถใช้ได้เหมือนกันแต่เมื่อใช้เสร็จแล้วควรใช้น้ำเปล่าล้างอีกที และไม่สามารถใช้ในน้ำทะเลหรือสระน้ำที่มีเกลือผสมอยู่ได้ เนื่องจากมันจะเกิดการกัดกร่อน ทำให้ตัวเครื่องเสียหายได้ ถ้าใช้นอกเหนือจากที่กำหนดจะไม่รับประกันนะจ๊ะ และสุดท้ายก่อนที่จะใช้ให้เอาจุกยางอุดช่องเสียบทุกช่องเสียก่อน
แล้วจะรู้ได้ไงว่ามือถือเราอยู่ในมาตรฐานใด คำตอบก็คือ ดูข้างกล่อง หรือว่าลองหาในเน็ตดู แต่ถ้าหาไม่เจอ หรือผู้ผลิตไม่ได้บอกเลย เช่น iPhone เนี่ย มันก็อาจจะกันน้ำได้ระดับหนึ่ง ผมก็แนะนำเลยว่าอย่าเอาไปโดนน้ำหรือไปคลุกกับฝุ่นเป็นการดีที่สุด
แล้วถ้าสมมติอยากเอามือถือที่กันน้ำไม่ได้ ไปถ่ายรูปใต้น้ำหรือเอาไปเล่นสงกรานต์เนี่ย ต้องทำยังไงล่ะ??
ผมก็มีข้อเสนอ 2 ทางเลือกให้ก็คือ
ทางเลือกที่หนึ่ง เอามือถือไปเคลือบกันน้ำสิ ผมเคยได้เขียนกระทู้เกี่ยวกับการเคลือบกันน้ำนี้ไปรอบนึงแล้ว ไปตามอ่านกันได้ xxxxxxxxxx ผมอธิบายสั้นๆ อีกรอบก็แล้วกันคือทางร้าน #Hashtag ที่ CTW เนี่ย มีบริการเคลือบมือถือของเราให้สามารถกันน้ำได้ ซึ่งเค้าจะเคลือบทั้งข้างในและข้างนอก เพราะฉะนั้นเค้าก็ต้องแกะเครื่องออกมาเคลือบวงจรทั้งหมด ซึ่งมือถือบางรุ่นอาจจะทำให้หมดประกันได้
ทางเลือกที่สอง ก็คือหาเคสหรือซองกันน้ำคุณภาพสูงมาใส่ซะ ซึ่งช่วงนี้ก็มีหลายเจ้า หลายยี่ห้อมาลด แลก แจก แถมกันอย่างสนุกสนาน เรื่องราคา ก็แล้วแต่คุณภาพของซอง รูปนี้ผมเอาตัวอย่างซองของยี่ห้อ PenguinProof มา ซึ่งเค้าเคลมว่ากันน้ำได้ 20 เมตร เล่นมือถือในซองก็ได้ เอาไปเล่นในทะเลก็ได้
สรุป
เราก็ควรศึกษาก่อนว่ามือถือของเรากันน้ำกันฝุ่นอยู่ในระดับใด และควรที่จะทำตามคำแนะนำในการใช้มือถือของผู้ผลิตนั้นๆ ว่าข้อจำกัดของมือถือเราคืออะไร สุดท้ายก็ขอให้มีความสุขในวันสงกรานต์ ขับรถปลอดภัยทุกคน เมาไม่ขับ และก็ขอให้มือถือไม่พัง ไม่เจ๋งนะครับทุกคน